เป็นที่อือฮาของแฟนๆเสกในวันที่เสกออกมาแถลงข่าวที่บ้านแล้ว ปะจะดะกับแกรมมี่ ทำเอางานอีเว้นท์ทีผมไปช่วยทำวันรุ่งขึ้น สื่อมาไม่เป็นไปตามเป้า เพราะไปงานแถลงข่าวของแกรมมี่เสียส่วนใหญ่ ช่วงนั้นแฟนๆเสกส่วนใหญ่ เชียร์เสก ยกให้เสกเป็นคนจริง คนตรงและมีคำติดปากของคนทั่วไปว่า ผมเอาอยู่ แม้คืนที่ไปเล่นคอนเสิร์ตปราศัย ที่บุรีรัมย์เหมือนแกนนำประท้วง ช่วงนั้นหลายคนก็ชมเสกกับคำว่าเฮงเก่งเฮงแน่มาก ผมเองก็ชื่นชมที่กล้าชนกับแกรมมี่[แต่ถ้าเป็นผมคงไม่เนรคุณแกรมมี่]
สงครามในเฟสบุ๊คก็เกิดระเบิดหนักกว่าเดิม เพจของภรรยาและเสก ในสื่ออินเตอร์เนตกระทู้ต่างๆแทบแตก และที่หนักสามีอ้อมเมียเสก ออกสื่อครั้งแรกกับสยามดารา ทำเอาหลายคนซ๊อกกันทั่วประเทศ ถ้าคุณเป็นเสกคุณจะทำอย่างไร? และช่วงนั้นหลายคนนวงการบันเทิงออกมาต่อว่าต่อต้านเสก คำว่าผมเอาอยู่ ไม่เห็นด้วย ศิลปินไม่จำเป็นต้องเสพยา
หลังจากนั้นแฟนๆหลายๆคนเริ่มไม่เห็นด้วยกับเสกเรื่องยาเสพติด เพราะมีตัวอย่างมากมาย ที่ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนรอบข้าง เอามีดจี้ตัวเอง เริ่มระแวงมีคนจะมาฆ่า ใช้ยานานๆจะเป็นอย่างนั้นจริง คำว่าผมเอาอยู่จะเริ่มเอาไม่อยู่
ผมเองก็เป็นแฟนเพลงของเสก ชอบผลงานของเขา ที่ประทับใจเมื่อก่อนช่วงที่ผมช่วยทำการตลาดให้สถาบันสอนภาษาอังกฤษแห่งหนึ่ง เคยจัดอาจารย์ชาวต่างชาติไปสอนเสกที่บ้านเพราะเสกต้องเตรียมตัวจะไปอังกฤษ ทั้งสองคนคู่สามีภรรยาก็รักกันดี เรียนภาษาด้วยกันจนได้ใบประกาศนียบัตร จบหลักสูตรconversation levelสูง
ไม่นึกเหมือนกันว่าคู่นี้จะเลิกกันได้เพราะมีลูกด้วยกัน แต่เป็นเพราะยาเสพติด[ตามข่าว]ดูได้ในรูปเมื่อ2-3วันที่แล้ว ที่โรงพยาบาลคุณหมอให้เล่นกีต้าร์เล่นเพลงใจสั่งมา แต่ไปเล่นอีกเพลง ขณะที่คุยกับคุณหมอ ตาปรอๆปรือๆร้องเพลงก็หลับตาตลอดเหมือนคนตาบอด โถ่น่าอนิจจัง เยาวชนอย่าเอาเป็นตัวอย่าง สื่อมวลชนต้องไม่สนับสนับสนุน สื่อมวลชนต้องชี้ให้เยาวชนเห็นว่า ยาเสพติดเป็นสิ่งทำลายชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น